"คู่มือ...ทำกับข้าวเมืองเหนือประยุกต์" (ฉบับรีไซเคิ้ล) เล่มนี้ ผมขออนุญาตเรียกอย่างนี้ เพราะกระดากที่จะเรียกว่า "ตำรา" ผมเขียนขึ้นจากประสบการณ์ในการทำกับข้าวด้วยตนเองเกือบจะทุกวัน ตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่จนเกือบจะลาจากโลกใบนี้ไปแล้ว ส่วนหนึ่งซึ่งนับว่าเป็นส่วนมากที่สุดมาจากความทรงจำในอดีต ที่ได้อาสาเป็นลูกมือช่วยผู้ใหญ่ทำกับข้าวอยู่เสมอ... และทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ผมได้ตรวจสอบชำระข้อความบางท่อนบางตอนที่เป็นส่วนสาระสำคัญกับหนังสือ "ตำราทำกับข้าวเมืองเหนือ" เขียนโดย คุณสงวน โชติสุขรัตน์ ซึ่งเป็นบรมครูทางการหนังสือพิมพ์ขั้นปฐมของผม แล้วนำมาคลุกเคล้าผสมผสานเรียบเรียงเขียนขึ้นมาใหม่ในเชิง "เล่าสู่กันฟัง" ทั้งนี้ เพื่อสะดวกแก่คนรุ่นใหม่ จะได้นำเอาไปเป็น "คู่มือ" อนุรักษ์การทำกับข้าวของเมืองเหนือ ให้คงอยู่ถึงคนรุ่นต่อๆไป โดยคำนึงถึงวิธีการการทำกับข้าวเพื่อให้ทำกันได้อย่างง่ายๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร
"โปรดสังเกต.. ที่ช่อง url ด้านบนซ้าย ถ้าเป็น https กรุณาเปลี่ยนเป็น http แล้วกด enter เข้ามาใหม่ครับ"
@ คลิกที่นี่ ดูบนyoutube... @ ภาพรับปริญญามีต่อที่นี่... @ และที่นี่อีกจ้า... @ บัณฑิตรามฯรุ่น38(2555) ทุกคณะและทุกคน โหลดคลิปที่นี่...

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ปริศนา..เลขบัตรประชาชนไทยทั้ง 13 หลัก หมายถึงอะไร???



ปริศนา..เลขบัตรประชาชนไทยทั้ง 13 หลัก หมายถึงอะไร???
By: คนการเมือง

สมมุติว่า เลขบัตรประชาชนของเราเขียนไว้ว่า 1 1001 01245 29 9 (เขียนเว้นวรรค ตามแบบ) แต่ละหลักก็จะมีความหมายดังนี้

1 1001 01245 29 9

หลักที่ 1 (คือหมายเลข 1 ในตัวอย่าง) จะหมายถึง ประเภทบุคคล ซึ่งมีอยู่ 9 ประเภทได้แก่

ประเภทที่ 1 คือ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย และได้แจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา หมายความว่า เด็กคนใดก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2527 เป็นต้นไป อันเป็นวันเริ่มแรกที่เขาประกาศให้ประชาชนทุกคน ต้องมีเลขประจำตัว 13 หลัก เมื่อพ่อแม่ผู้ปกครองไปแจ้งเกิดที่อำเภอ หรือสำนักทะเบียนในเขตที่อยู่ภายใน 15 วันนับแต่เกิดมา ตามที่กฎหมายกำหนด เด็กคนนั้นก็ถือเป็นบุคคลประเภท 1 และจะมีเลขประจำตัวขึ้นด้วยเลข 1 เช่น เด็กหญิงส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2527 และพ่อไปแจ้งเกิดที่เขตดุสิตภายในวันที่ 17 มกราคม 2527 เด็กหญิงส้มจี๊ด ก็จะมีหมายเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 1 และก็ต่อด้วยเลขหลักอื่นๆ อีก 12 ตัว เป็น 1 1001 01245 29 9 เป็นต้น ซึ่งเลขนี้จะปรากฏในทะเบียนบ้าน และจะเป็นเลขประจำตัว เมื่อส้มจี๊ดไปทำบัตรประชาชนตอนอายุ 15 ปี

ประเภทที่ 2 คือ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลา หมายความว่า เด็กคนใดก็ตามที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2527 เป็นต้นไป แล้วบังเอิญว่าพ่อแม่ผู้ปกครองลืมหรือติดธุระ ทำให้ไม่สามารถไปแจ้งเกิดที่อำเภอหรือเขตภายใน 15 วันตามกฎหมายกำหนด เมื่อไปแจ้งภายหลัง เด็กคนนั้นก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท 2 และจะมีเลขตัวแรกในทะเบียนบ้านขึ้นด้วยเลข 2 ทันที เช่น ในกรณีส้มจี๊ด หากพ่อไปแจ้งเกิดให้ ในวันที่ 18 มกราคม 2527 หรือเกินกว่านั้น ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวเป็น 2 1001 01245 29 9 ในทะเบียนบ้าน และเมื่อไปทำบัตรประชาชนในภายหน้า

ประเภทที่ 3 คือ คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในสมัยเริ่มแรก (คือตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม 2527) หมายความว่า บุคคลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ณ ที่ใดที่หนึ่งในประเทศไทย มาตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 คนนั้นถือว่าเป็นบุคคลประเภท 3 และก็จะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 3 เช่น ส้มจี๊ด เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2501 และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านแล้ว ส้มจี๊ดก็จะมีเลขประจำตัวในทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนเป็น 3 1001 01245 29 9

ประเภทที่ 4 คือ คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญคนต่างด้าวแต่แจ้งย้ายเข้า โดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชน ในสมัยเริ่มแรก หมายความว่า คนไทยหรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญคนต่างด้าว ที่อาจจะเป็นบุคคลประเภท 3 คือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดิมอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้เลขประจำตัว ก็ขอย้ายบ้านไปเขตหรืออำเภออื่น ก่อนช่วงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 ก็จะเป็นบุคคลประเภท 4 ทันที เช่น ส้มจี๊ดมีชื่ออยู่ในสำนักทะเบียนเขตคลองสาน มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2527 ส้มจี๊ดก็ขอย้ายบ้านไปเขตดุสิต โดยที่ส้มจี๊ดยังไม่ทันได้เลขประจำตัวจากเขตคลองสาน พอแจ้งย้ายเข้าเขตดุสิต ส้มจี๊ดก็จะกลายเป็นบุคคลประเภท 4 มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วย 4 กลายเป็น 4 1001 01245 29 9 ทันที แต่ถ้าส้มจี๊ดย้ายจากเขตคลองสานเดิม ไปเขตดุสิต หลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 ส้มจี๊ดก็ยังเป็นบุคคลประเภท 3 อยู่ เพราะถือว่าจะได้เลขประจำตัวจากเขตคลองสานแล้ว จะย้ายอย่างไรก็ไม่เปลี่ยนแปลง

การกำหนดให้บุคคลเริ่มมีเลขประจำตัว 13 หลักในทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2527 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 อันเป็นวันสุดท้าย ของการดำเนินการให้ประชาชน ที่ไม่มีเลขประจำตัวในบัตรหรือทะเบียนบ้าน ได้มีเลขประจำตัวจนครบแล้วนั้น ก็เพราะก่อนหน้านี้ ประเทศไทยยังไม่เคยมีการกำหนดเลขประจำตัวดังกล่าวมาก่อนเลย ดังนั้น ช่วงที่ว่าจึงเป็นระยะเวลาจัดระบบให้เข้าที่เข้าทาง เพราะหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 แล้ว ทุกคนจะต้องมีเลขประจำตัวเพื่อสำแดงตนว่า เป็นบุคคลประเภทใด โดยดูตามเงื่อนไขในแต่ละกรณี ซึ่งมีอีก 4 ประเภท คือ

ประเภทที่ 5 คือ คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อ เข้าไปในทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจ หรือกรณีอื่นๆ เช่น ส้มจี๊ดมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเขตดุสิตอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าตอนที่มีการสำรวจรายชื่อผู้อยู่ในบ้าน เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้ชื่อของส้มจี๊ดหายไปจากทะเบียนบ้าน เมื่อไปแจ้งเจ้าหน้าที่และตรวจสอบแล้วว่าตกสำรวจจริง หรือจะเป็นเพราะกรณีอื่นใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็จะเพิ่มชื่อให้ แต่ส้มจี๊ดก็จะมีหมายเลขในทะเบียนบ้านเป็นบุคคลประเภท 5 และบัตรประชาชนจะขึ้นต้นด้วยเลข 5 ทันที คือ กลายเป็น 5 1001 01245 29 9

ประเภทที่ 6 คือ ผู้ที่เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และผู้ที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ในลักษณะชั่วคราว กล่าวคือ คนที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้สัญชาติไทย เพราะทางการยังไม่รับรองทางกฎหมาย เช่น ชนกลุ่มน้อยตามชายแดน หรือชาวเขา กลุ่มนี้ถือว่าเป็นผู้เข้าเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนบุคคลที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ชั่วคราว เช่น นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย แม้บางคนจะถือพาสปอร์ตประเทศของตน แต่อาจจะมีสามีหรือภริยาคนไทย จึงไปขอทำทะเบียนประวัติ เพื่อให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านสามีหรือภริยา คนทั้งสองแบบที่ว่า ถือว่าเป็นบุคคลประเภท 6 เลขประจำตัวในบัตรจะขึ้นต้นด้วยเลข 6 เช่น 6 1012 23458 12

ประเภทที่ 7 คือ บุตรของบุคคลประเภทที่ 6 ซึ่งเกิดในประเทศไทย คนกลุ่มนี้ในทะเบียนประวัติจะมีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 7 เช่น 7 1012 2345 133

ประเภทที่ 8 คือ คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมาย คือ ผู้ที่ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือคนที่ได้รับการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติไทย และคนที่ได้รับการให้สัญชาติไทย ตั้งแต่หลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2527 เป็นต้นไปจนปัจจุบัน คนกลุ่มนี้เลขในทะเบียนประวัติจะขึ้นด้วยเลข 8 เช่น 8 1018 01234 24 7

คนทั้ง 8 ประเภทนี้ จะมีเพียงประเภทที่ 3, 4 และ 5 เท่านั้น ที่จะมีบัตรประชาชนได้เลย ส่วนประเภทที่ 1 และ 2 จะมีบัตรประชาชนได้ ก็ต่อเมื่อมีอายุถึงเกณฑ์ทำบัตรประจำตัวประชาชน คืออายุ 15 ปี แต่สำหรับบุคคลประเภทที่ 6, 7 และ 8 จะมีเพียงทะเบียนประวัติเล่มสีเหลืองเท่านั้น จะไม่มีการออกบัตรประชาชนให้

ประเภทที่ 9 คือ คือพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง ตัวเลขแรกจะขึ้นต้นด้วยเลข 9

1 1001 01245 29 9

ต่อไปคือ หลักที่ 2 ถึงหลักที่ 5 (เลข 1001 ในตัวอย่างหรือสี่ตัวถัดไปจากตัวแรก) จะหมายถึง รหัสของสำนักทะเบียน หรืออำเภอที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนขณะที่ให้เลข ซึ่งก็หมายถึงถิ่นที่อยู่ของเรานั่นเอง กล่าวคือ เลขหลักที่ 2 และ 3 จะหมายถึงจังหวัดที่อยู่ ส่วนหลักที่ 4 และ 5 หมายถึงเขตหรืออำเภอในจังหวัดนั้นๆ เช่น ถ้าเขียนว่า 1001 ก็หมายถึงว่า คุณอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ ในเขตดุสิต เพราะ 10 ในหลักที่ 2 และ 3 หมายถึงกรุงเทพมหานคร ส่วนเลข 01 ในหลักที่ 4 และ 5 คือรหัสของสำนักทะเบียนเขตดุสิต หรือถ้าเขียนว่า 1101 ก็จะหมายถึง อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอเมือง เพราะ 11 แรกคือ รหัสจังหวัดสมุทรปราการ และ 01 หลัง คือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นต้น

@ รหัสจังหวัดและอำเภอ.pdf

1 1001 01245 29 9

สำหรับ หลักที่ 6 ถึงหลักที่ 10 (เลข 01245 ในตัวอย่าง) จะหมายถึง กลุ่มที่ของบุคคลแต่ละประเภท ตามหลักแรก (หลักที่ 1) ซึ่งทางสำนักทะเบียนในแต่ละแห่ง ก็จะจัดกลุ่มเรียงไปตามลำดับ หรือหากเป็นเด็กเกิดใหม่ในปัจจุบัน เลขดังกล่าวก็จะหมายถึง เล่มที่ของสูติบัตร (ใบแจ้งเกิดที่อำเภอหรือเขตออกให้) ซึ่งก็คือเลขประจำตัวในทะเบียนบ้านของเด็กที่แต่ละอำเภอหรือเขตออกให้ และจะไปปรากฏในบัตรประชาชน เมื่อถึงอายุต้องทำบัตรนั่นเอง แต่ถ้ายังไม่ถึงเกณฑ์เลขนี้ ก็จะปรากฏอยู่แค่ในทะเบียนบ้านของเด็กเท่านั้น

1 1001 01245 29 9

หลักที่ 11 และ 12 (หมายเลข 29 ในตัวอย่างสมมุติ) จะหมายถึง ลำดับที่ของบุคคลในแต่ละกลุ่มประเภท เป็นการจัดลำดับว่าเราเป็นคนที่เท่าไรในกลุ่มของบุคคลประเภทนั้นๆ

1 1001 01245 29 9

หลักที่ 13 (เลข 9 ตัวสุดท้ายในตัวอย่าง) จะหมายถึง ตัวเลขสำหรับตรวจสอบความถูกต้องของเลขทั้ง 12 หลักแรกอีกที

1 1001 01245 29 9

สำหรับเลขตั้งแต่หลักที่ 6 ถึง 13 นี้เป็นการจัดหมวดหมู่ และเรียงลำดับบุคคลในแต่ละประเภทของสำนักทะเบียนในแต่ละท้องที่ ซึ่งเราก็คงไม่ต้องรู้รายละเอียดอะไรลึกไปกว่านี้ เพราะรู้แล้วอาจจะงงเปล่าๆ

เป็นเรื่องน่าแปลกว่า ตัวเลข 13 หลักที่เป็นหมายเลขในบัตรประชาชน หรือเลขประจำตัวประชาชนของเราแต่ละคนนี้ จะไม่มีการซ้ำกันเลย ผิดกับชื่อหรือนามสกุล ยังมีซ้ำกันได้ และจะเป็นเลขประจำตัวเราจนตาย ไม่มีการเปลี่ยน หรือยกให้คนอื่น และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ว่า ในอนาคตจะต้องมีการเติมเลข อย่างเลข 8 เข้าไปอีก เพราะเลขไม่พอใช้เหมือนโทรศัพท์มือถือหรือไม่ เขาก็บอกว่าคงอีกนาน อาจจะถึง 100 ปีโน่น เพราะการที่เขาแยกแยะบุคคลเป็นประเภทต่างๆ และยังแยกย่อยเป็นจังหวัดอำเภอ แล้วลงรายละเอียดไปเป็นกลุ่มๆในแต่ละประเภทอีกนั้น ทำให้เพดานหรือช่วงตัวเลขมีความห่างมาก จนสามารถรองรับจำนวนคนได้อีกมาก และหากใครสงสัย หรือมีปัญหาในเรื่องทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส บัตรประชาชน ก็สามารถสอบถามไปได้ที่ สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทร. 1548

ตัวเลข 13 หลักที่กล่าวข้างต้น เป็นเลขประจำตัวประชาชนของแต่ละคนนี้ แม้จะมิใช่ตัวเลขที่เราต้องใช้เป็นประจำในชีวิตประจำวัน ยกเว้นใช้ในการกรอกเอกสารบางอย่าง เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร ฯลฯ แต่เลขนี้ก็มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นการสำแดงตัวตน “ความเป็นคนไทยหรือคนในประเทศไทย” ที่ทำให้เราสามารถอาศัยอยู่ในประเทศไทย และใช้สิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้


Check Digit คืออะไร?

Check Digit เป็นตัวเลข 1 หลัก ที่เกิดจากการนำเลขหลักอื่นๆ มา บวก ลบ คูณ หาร กัน และ Check Digit นี่หละครับ จะช่วยให้เราตรวจสอบในเบื้องต้นได้ว่า ข้อมูลที่กรอกมาถูกต้องรึเปล่า

เวลาเราจะตรวจสอบว่าข้อมูลที่กรอกมาถูกต้องรึเปล่า เราจะคำนวณ Check Digit จากเลขหลักอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบกับ Check Digit ที่เขากรอกมาว่าตรงกันมั้ย ถ้าตรงกันก็แสดงว่าข้อมูลถูกต้องไม่ผิด ไม่มั่ว แต่ถ้าไม่ตรงกัน ก็แปลว่า ข้อมูลที่กรอกมามีข้อมูลซักหลัก หรือ สองหลักที่ผิด เราก็สามารถเตือนให้ผู้ใช้ทราบและกรอกใหม่ อีกครั้งได้

เอ้า มาลองคำนวณ Check Digit ของรหัสประชาชนเรากันดีกว่า

ขอยกตัวอย่างรหัสประชาชนนี้ละกัน

1 2015 41462 23 4

ไหน ตอบหน่อยซิ ว่า Check Digit ของรหัสประชาชนนี้คือเลขอะไร?

เอ้า ถามเองตอบเองก็ได้ Check Digit ของรหัสประชาชนนี้คือเลข 4 (เลขตัวสุดท้ายนั่นเอง)

เรามาดูกันว่า เลข 4 เกิดจากอะไร? คำนวณมาได้ไง? มั่วเปล่า?

* ขั้นตอนที่ 1 - เอาเลข 12 หลักมา เขียนแยกหลักกันก่อน (หลักที่ 13 ไม่ต้องเอามา)


* ขั้นตอนที่ 2 - เอาเลข 12 หลักนั้นมา คูณเข้ากับเลขประจำหลักของมัน


* ขั้นตอนที่ 3 - เอาผลคูณทั้ง 12 ตัวมา บวกกันทั้งหมด จะได้ 13+24+0+10+45+32+7+24+30+8+6+6=205

* ขั้นตอนที่ 4 - เอาเลขที่ได้จากขั้นตอนที่ 3 มา mod 11 (หารเอาเศษ) จะได้ 205 mod 11 = 7

* ขั้นตอนที่ 5 - เอา 11 ตั้ง ลบออกด้วย เลขที่ได้จากขั้นตอนที่ 4 จะได้ 11-7 = 4 (เราจะได้ 4 เป็นเลขในหลัก Check Digit)

ถ้าเกิด ลบแล้วได้ออกมาเป็นเลข 2 หลัก ให้เอาเลขในหลักหน่วยมาเป็น Check Digit (เช่น 11 ให้เอา 1 มา, 10 ให้เอา 0 มา เป็นต้น)

โอ้โห...มหัศจรรย์มาก ยอดเยี่ยมกระเทียมดอง เลขที่ได้ตรงกับเลขหลักที่ 13 ด้วยแหละ...ถ้าไม่เชื่อก็เอาเลขบัตรประชาชนตัวเองมาคำนวณดูสิ

คิดว่าหลายๆ คนคงมีคำถามในใจแล้วหละว่า ทำไมต้องเอามาคูณ 13 ทำไมต้องเอามา บวกกัน ทำไมต้องเอามา mod 11 คำตอบที่ให้ได้ก็คือ มันคือวิธีที่ถูกเลือกใช้ในการคำนวณ Check Digit ให้กับรหัสประชาชน แต่ถ้าเราจะคำนวณ Check Digit ให้กับรหัสสินค้า หรือ ISBN ของหนังสือ เราก็ต้องใช้วิธีการคำนวณ ที่แตกต่างกันออกไป


1 2015 41462 23 4

ทายชีวิตจากเลขบัตรประชาชน หลักที่ 11

เลขบัตรประชาชนมี 13 หลักด้วยกัน มาดูว่าเลขหลักที่ 11 มีอิทธิพลต่อชีวิตของเราอย่างไรบ้าง (เรื่องนี้เป็นสถิติ ดังนั้นอาจมีการคลาดเคลื่อนบ้าง แต่ส่วนใหญ่ รับรองว่า "ใช่")

ถ้าเป็นเลข 1 อดีตชาติเป็นเพศชาย และเป็นผู้นำมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำระดับไหนก็ตาม เช่น เป็นนักเรียนก็เป็นหัวหน้าชั้น ถ้าทำงานก็เป็นระดับหัวหน้างาน คนมีเลข 1 อยู่หลักที่ 11 มักเป็นลูกคนโต หรือลูกโทน หมายรวมถึงลูกชายคนแรก หรือลูกสาวคนแรก ถ้าไม่เป็นอย่างนี้ คือ ไม่ใช่ลูกคนโต หรือลูกโทน แสดงว่าภาระการดูแลพ่อแม่และครอบครัว จะตกเป็นของคุณทันที ซึ่งดีตรงที่คุณมีโอกาสแสดงความกตัญญูทั้งๆที่คุณรู้สึกอึดอัดใจเหลือเกิน แต่ผลพลอยได้คือ มรดก จะตกเป็นของคุณคนเดียว ถ้าพี่น้องคุณไม่มีใครมีเลข 1 เป็นเลขหลัก 11

ถ้าเป็นเลข 2 อดีตชาติเป็นเพศหญิง ทำอะไรก็เป็นรองเขาไปหมด ถ้าเป็นเพศชายมักกลัวเมีย ชอบการพบปะผู้คน เป็นคนกลัวความเหงา

ถ้าเป็นเลข 3 อดีตชาติมักมีอาชีพเป็นรั้วของชาติ (ทหารและตำรวจ) จึงมักเกิดมาในครอบครัวที่มีการต่อสู้แข่งขันสูง

ถ้าเป็นเลข 4 อดีตชาติเป็นชนชั้นปัญญาชน มีการศึกษาดี มักเกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง พอมีพอกิน

ถ้าเป็นเลข 5 อดีตชาติมักเป็นผู้ทำนุบำรุงศาสนา เป็นครูบาอาจารย์ นักปฏิบัติธรรม เกิดมาเพื่อเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ

ถ้าเป็นเลข 6 อดีตชาติมักเป็นคนธรรพ์มาก่อน บำเพ็ญทางทานบารมีมามาก จึงมักเกิดในครอบครัวฐานะดี

ถ้าเป็นเลข 7 เป็นการมาเกิดเพื่อชดใช้กรรม มักเกิดในครอบครัวฐานะยากจน ปากกัดตีนถีบ หาเช้ากินค่ำ มักมีการโยกย้ายถิ่นฐาน

ถ้าเป็นเลข 8 เป็นพวกหมดกรรมจากนรกมาเกิดเพื่อแก้ตัว หรือหมดบุญจากสวรรค์ชั้น 1 (จาตุมหาราชิกา) พวกเข้าสมาธิแล้วติดในสุข เป็นกลุ่มบุคคลที่มีโอกาสทำความผิดได้ง่ายกว่าทุกตัวเลข ถ้าสามารถชนะกิเลสตัณหาที่เข้ามาทดสอบแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์ได้

ถ้าเป็นเลข 9 พวกหมดบุญจากสวรรค์ชั้นสูง พวกหนีมาเกิด พวกถูกลงโทษ เพราะทำผิดกฎสวรรค์ พวกมาเกิดตามหน้าที่ (รับโองการเทวะ) มักมีพรสวรรค์พิเศษ หรือชื่นชอบศาสตร์เร้นลับบททดสอบแตกต่างกันไป แล้วแต่บุคคล

ถ้าเป็นเลข 0 อดีตชาติมักเป็นคนเชื่อถือในสิ่งที่พิสูจน์ได้ พวกนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ แม้แต่การเกิดมาแบบไม่มีอะไรเลย แล้วต่อสู้บากบั่น สร้างสรรค์ขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง


ดูดวงชะตาจากเลขท้ายสามตัวบัตรประชาชน

ถ้าจะพูดถึงเรื่องเลขบัตรประชาชนแล้วนั้นทุกคนย่อมมีติดตัวมาตั้งแต่ได้มีการแจ้งเกิด ซึ่งแต่ละคนจะได้เลขประจำตัวไม่ซ้ำกัน และไม่สามารถเลือกเลขของตนเองได้ หากพูดง่ายๆ ก็คือ เลขที่ทุกคนได้นั้นได้ถูกกำหนดให้เป็นเลขของคุณมาแล้ว สำหรับเลขบัตรประชาชนนั้นนอกจากจะมีประโยชน์ในเรื่องของการระบุตัวตนของแต่ละบุคคลแล้วยังสามารถบอกถึงดวงชะตาของเจ้าของเลขได้อีกด้วย

1 1001 01245 29 9

การดูดวงชะตาจากเลขบัตรประชาชนนั้นทำได้โดยการนำเลขสามตัวท้ายของเลขบัตรประชาชนของคุณมาบวกรวมกันจนเหลือตัวเลขเพียงหลักเดียว เช่น เลขบัตรประชาชนคือ 1 1001 01245 29 9 จากนั้นนำ 2+9+9 = 20 จากนั้นนำ 2+0 = 2 จากนั้นนำเลข 2 ที่ได้ไปอ่านคำทำนายดวงชะตาได้เลย

ผลลัพธ์เลข 1 ผู้ที่ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเลข 1 มักเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าทำ มีความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจนประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากนี้ผู้ที่ได้เลขนี้ยังเป็นคนที่หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีของตนเองไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ ส่วนในเรื่องของความรักของผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลข 1 มักถือว่าความรักเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตจึงทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อความรัก แต่ควรระวังในเรื่องของการที่เป็นคนช่างพูดมากจนเกินไปจึงทำให้คนอื่นมองว่าเป็นคนที่ขาดความน่าสนใจไป

ผลลัพธ์เลข 2 ผู้ที่ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเลข 2 มักเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวเปลี่ยนแปลงได้ง่าย มักใช้อารมณ์มากกว่าที่จะใช้เหตุผลในการทำสิ่งต่างๆ จึงทำให้ในบางครั้งก็ขาดความเด็ดขาดในการตัดสินใจ อีกทั้งเลข 2 ยังแสดงถึงการที่เป็นที่รักของมิตรสหายมากมาย เป็นคนที่มีปัญญาดีมีไหวพริบเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หากต้องการที่จะมีกิจการเป็นของตนเองควรร่วมทำกับผู้อื่น โดยเฉพาะกับคู่ครองของตนจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก นอกจากนี้แล้วผู้ที่ได้ผลลัพธ์เป็นเลข 2 ยังเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดต่อเพศตรงข้ามเป็นอย่างมากและเป็นที่รักของผู้อื่นอยู่เสมอ จึงทำให้มีความรักเข้ามาหลากหลาย ดังนั้นจึงควรมีความหนักแน่นให้มากจึงจะทำให้ความรักยืนยาวมากยิ่งขึ้นได้ไม่ยาก

ผลลัพธ์เลข 3 เลข 3 นั้นแสดงถึงการเป็นคนอารมณ์ร้อน คิดไว ทำไว ตัดสินใจเด็ดขาด ในบางครั้งก็เป็นคนที่เอาแต่ใจตนเป็นใหญ่จนหลงลืมนึกถึงวามรู้สึกผู้อื่นไปบ้าง นอกจากนี้เลข 3 ยังแสดงถึงปัญหาต่างๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตอยู่ร่ำไป โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องของมือที่ 3 ดังนั้นผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลขนี้จึงควรมีความเข้มแข็ง และดูแลเอาใจใส่คู่ครองและครอบครัวให้มากขึ้นจึงจะสามารถผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยดี หากต้องการที่จะมีกิจการเป็นของตนเอง ควรระวังไม่ไว้ใจลูกน้องหรือบริวารมากจนเกินไป และไม่ควรอุทิศตนเป็นนักบุญใจกว้างจนทำให้ตนเองต้องเดือดเนื้อร้อนใจ หากผ่านพ้นปัญหาทั้งหมดได้จะประสบกับความสุข ความสบายในภายภาคหน้า

ผลลัพธ์เลข 4 เลข 4 นั้นแสดงถึงการเป็นที่รักของผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นคนที่มีพรสวรรค์ มีไหวพริบ ทันคน อีกทั้งยังเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ เข้ากับคนอื่นๆ ได้ง่าย และการที่เป็นคนช่างพูดช่างคุย จนบางครั้งอาจถึงขั้นขี้โม้จึงทำให้เหมาะกับอาชีพที่เกี่ยวกับนักขาย ส่วนในเรื่องของความรักแล้วผู้ที่ได้ผลลัพธ์เป็นเลข 4 ถือว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์มากจนบางครั้งคนอื่นอาจมองว่าเป็นคนเจ้าชู้ ทั้งที่ความจริงแล้วผู้ที่ได้เลขนี้เป็นคนช่างเลือก และเบื่อง่าย ดังนั้นคนที่จะสามารถอยู่เคียงข้างกับกันได้นั้นต้องเป็นคนที่เข้ากันได้จริงๆ มีเหตุผล มีความเป็นตัวของตัวเองที่ไม่ซ้ำใคร

ผลลัพธ์เลข 5 ผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลข 5 นั้นแสดงถึงการเป็นคนที่มีบุคลิกน่าเชื่อถือ สามารถเป็นที่ปรึกษาให้คนรอบข้างได้เป็นอย่างดี แต่หากถึงคราวที่ตนเองต้องการที่ปรึกษาบ้างก็หาได้ยากเย็นนัก นอกจากนี้เลข 5 ยังแสดงถึงการเป็นคนหยิ่งทะนง ไม่ยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ และมักจะมีเรื่องทุกข์ใจจากความคิดมากของตนเองบ่อยครั้ง อีกทั้งผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลข 5 มักเป็นคนชอบความเรียบง่าย ชอบให้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าการใช้ชีวิตในเมืองที่สับสนวุ่นวายไม่รู้จบ ส่วนในเรื่องความรักแล้วเป็นคนชังเลือกเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นคนที่เคร่งคัดในเรื่องของขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นอย่างมาก จึงทำให้เป็นคนที่มักมีคู่ครองช้ากว่าคนอื่นๆ

ผลลัพธ์เลข 6 ผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลข 6 แสดงถึงการเป็นคนที่มีผู้คนรักใคร่เอ็นดู ไม่ว่าจะทำอะไรก็สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก หากเป็นคนที่บำเพ็ญภาวนาจะเป็นคนที่มีจิตเหนือธรรมชาติ มีสัมผัสที่ 6 นอกจากนี้เลข 6ยังแสดงถึงการเป็นคนที่มีระเบียบแบบแผนเป็นของตนเอง รักความสะอาด จิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ แต่ในบางครั้งก็เป็นคนที่จู้จี้จุกจิกอยู่บ้าง สำหรับในเรื่องของความรักไม่มีอุปสรรคอะไรมากนัก จึงไม่ค่อยจะได้มีสถานะโสดนานเท่าไหร่นัก และมักจะเลือกคนที่ดีที่สุดให้กับตนเองเสมอ

ผลลัพธ์เลข 7 เลข 7 นั้นแสดงถึงการเป็นคนที่ต้องรับภาระอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงชีวิต จนทำให้บางครั้งก็ไม่สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ตามใจต้องการนัก อีกทั้งยังเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในความคิดของตัวเองเป็นอย่างมากจนบางครั้งอาจจะถึงขั้นยึดติดเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงและมีอุดมการณ์ชัดเจน ดวงชะตาของผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลข 7 นั้น ไม่ควรอยู่ติดที่ ควรทำงานที่ต้องมีการเดินทางบ่อยครั้ง เช่น ไกด์นำเที่ยว เป็นต้น หรือทำงานที่ต้องใช้ทักษะในการเจรจาติดต่อประสานงาน จึงจะประสบความสำเร็จ หากจะพูดถึงในเรื่องของความรักนั้นค่อนข้างที่จะมีเรื่องทะเลาเบาะแวงกันบ่อยครั้งหากอยู่ติดกันมากจนเกิน จึงควรลองให้แต่ละฝ่ายได้ใช้เวลาของตัวเองบ้าง ห่างกันบ้าง จะทำให้ความรักราบรื่นขึ้น

ผลลัพธ์เลข 8 ผู้ที่ได้ผลลัพธ์เป็นเลข 8 นั้นเชื่อว่าเป็นคนที่มีบุญบารมี หากหมั่นหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมและพัฒนาตนเองอยู่เสมอจะทำให้ประสบความสำเร็จ มีฐานะร่ำรวยมั่นคงมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป นอกจากนี้เลข 8 ยังแสดงถึงการมีชีวิตที่โลดโผน เป็นคนที่มีอารมณ์สองด้านในคนๆ เดียว คือ หากเมื่อเวลาดีก็จะดีจนหน้าแปลกใจ แต่หากร้ายขึ้นมาก็ร้ายแบบไม่น่าเชื่อด้วยเช่นกัน สำหรับในเรื่องของความรักผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลข 8 นั้นเป็นคนที่มีความรักที่ประสบความสำเร็จ มีคู่ครองที่ดี แต่ในบางครั้งผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลขนี้ก็ใช้ชีวิตสนุกสนานจนหลงลืมให้ความสำคัญกับคนรักหรือคู่ครองไป ดังนั้นจึงควรให้เวลาและการใส่ใจคู่ครองให้มากขึ้น

ผลลัพธ์เลข 9 เลข 9 นั้น แสดงถึงการเป็นผู้นำ อำนาจ ความยิ่งใหญ่ และแสดงถึงความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การเงิน มีผู้อุปถัมภ์ค้ำชูให้ความช่วยเหลือในยามยากอยู่เสมอ ในวัยเด็กอาจจะต้องสู้ชีวิต พบเจอกับอุปสรรค และต้องใช้ความเพียรและความอดทนเป็นอย่างมากในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ แต่ในท้ายที่สุดก็จะประสบความสำเร็จชีวิต ดวงชะตาของผู้ที่ได้ผลลัพธ์เลข 9 นั้นมักต้องเป็นผู้ที่เสียสละให้กับผู้อื่นอยู่เสมอ แต่สิ่งนี้จะส่งผลให้ประสบความสุขในภายภาคหน้า ส่วนในเรื่องของความรักนั้นควรระวังในเรื่องของชู้สาว ไม่ควรใจอ่อนมากจนเกินไปเนื่องจากจะนำเรื่องเดือดร้อนใจเข้ามาได้


โรคร้าย 8 ประการ - ความทุกข์ 4 ประการ
แส่เสือก..เพ้อพล่าม..ประจบ..สอพลอ..ใส่ไคล้..ยุแยง..เจ้าเล่ห์..กลิ้งกลอก - มักใหญ่..ถือดี..ยโส..ทะนง..
ก่อสงครามรบกันมาหลายปี ความสูญเสียมากเกินประเมินประมาณ..
บ้านเมืองที่มีแต่คนป่วยเป็นโรคร้ายทั้ง8 มีแต่คนมีทุกข์ทั้ง4 เป็นบ้านเมืองที่หาความสงบสุขไม่ได้เลย

@ โรคร้าย 8 ประการ - ความทุกข์ 4 ประการ