"คู่มือ...ทำกับข้าวเมืองเหนือประยุกต์" (ฉบับรีไซเคิ้ล) เล่มนี้ ผมขออนุญาตเรียกอย่างนี้ เพราะกระดากที่จะเรียกว่า "ตำรา" ผมเขียนขึ้นจากประสบการณ์ในการทำกับข้าวด้วยตนเองเกือบจะทุกวัน ตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่จนเกือบจะลาจากโลกใบนี้ไปแล้ว ส่วนหนึ่งซึ่งนับว่าเป็นส่วนมากที่สุดมาจากความทรงจำในอดีต ที่ได้อาสาเป็นลูกมือช่วยผู้ใหญ่ทำกับข้าวอยู่เสมอ... และทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ผมได้ตรวจสอบชำระข้อความบางท่อนบางตอนที่เป็นส่วนสาระสำคัญกับหนังสือ "ตำราทำกับข้าวเมืองเหนือ" เขียนโดย คุณสงวน โชติสุขรัตน์ ซึ่งเป็นบรมครูทางการหนังสือพิมพ์ขั้นปฐมของผม แล้วนำมาคลุกเคล้าผสมผสานเรียบเรียงเขียนขึ้นมาใหม่ในเชิง "เล่าสู่กันฟัง" ทั้งนี้ เพื่อสะดวกแก่คนรุ่นใหม่ จะได้นำเอาไปเป็น "คู่มือ" อนุรักษ์การทำกับข้าวของเมืองเหนือ ให้คงอยู่ถึงคนรุ่นต่อๆไป โดยคำนึงถึงวิธีการการทำกับข้าวเพื่อให้ทำกันได้อย่างง่ายๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร
"โปรดสังเกต.. ที่ช่อง url ด้านบนซ้าย ถ้าเป็น https กรุณาเปลี่ยนเป็น http แล้วกด enter เข้ามาใหม่ครับ"
@ คลิกที่นี่ ดูบนyoutube... @ ภาพรับปริญญามีต่อที่นี่... @ และที่นี่อีกจ้า... @ บัณฑิตรามฯรุ่น38(2555) ทุกคณะและทุกคน โหลดคลิปที่นี่...

วันเสาร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2560

พ่อเลิศห้ามอย่าเล่นการเมือง ในที่สุดก็ใจอ่อน..แต่ก็ยังมิวายบอกว่า..


พ่อเลิศห้ามอย่าเล่นการเมือง
ในที่สุดก็ใจอ่อน..แต่ก็ยังมิวายบอกว่า..พ่อไม่เห็นด้วยนะ!

By: "คนการเมือง"

"..บทสนทนาประวัติศาสตร์ "ตระกูลชินวัตร" เกิดขึ้นที่ปลายเตียง "พ่อเลิศ ชินวัตร" ในขณะเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพในปี 2541 .. ไม่มีใครรู้ว่าการ "โอนหุ้น" ซึ่งถูกบังคับโดยกฎหมายเพื่อกระโจนเข้าสู่ปลักโคลนการเมืองของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ในวันนั้น จะทำให้ "หัวหน้าครอบครัว" ต้องพเนจรอยู่ในต่างแดน ณ วันนี้!!!.."

"หลังคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ ฟังจากปากทักษิณชัดๆ"

"..แต่ด้วยความที่อยากทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ก็ตั้งใจอย่างนั้นครับเลยดื้อ ดื้อกับคุณหญิง ดื้อกับลูก พ่อขอโทษด้วยนะลูก.."

- วันนี้พี่น้องคงเห็นว่าผมแต่งชุดดำ ผูกไทดำไว้ทุกข์ ผมขออนุญาตครับ ขอไว้ทุกข์ให้กับความดื้อของตัวเอง ที่ดื้อไม่ยอมเชื่อคุณหญิงกับลูกๆ ที่คัดค้านว่าไม่ให้ผมเข้าการเมือง..

- เพราะเขาบอกว่าชีวิตการเมืองมันวุ่นวายสับสน เราเป็นเศรษฐีอยู่แล้วสบายๆ ใช้ชีวิตแบบเศรษฐีดีกว่า อย่าไปสนใจเรื่องการเมืองเลย..

- แต่ด้วยความที่อยากทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ก็ตั้งใจอย่างนั้นครับเลยดื้อ ดื้อกับคุณหญิง ดื้อกับลูก พ่อขอโทษด้วยนะลูก.

* * * * *

ฟังจากปากทักษิณชัดๆ

* * * * *

ทักษิณ ชินวัตร เปิดใจก่อนรัฐประหาร 2549

* * * * *

บทสนทนาประวัติศาสตร์ "ตระกูลชินวัตร"

เกิดขึ้นที่ปลายเตียงของ "พ่อเลิศ" ในขณะเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพในปี 2541

"..แฉทักษิณ รวย 60,000 ล้านบาท ก่อนเข้าสู่การเมือง .. ต่างกับคนอื่นๆรวยเอาๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นจ๊นจน.."

ล้วงลึกบทสนทนาลับ พ่อห้าม "ทักษิณ" อย่าเล่นการเมือง

สมชาย วงศ์สวัสดิ์(เขยตระกูลชินวัตร) ออกตัว-ออกปากยอมรับว่าเป็นคนใกล้ชิด "ผู้นำพเนจร" นาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

โดย "รู้จัก-รู้ไส้" กันดีตั้งแต่สมัย "บิ๊กแม้ว" ทำ "ดอกเตอร์" สาขาอาชญาวิทยา ที่มหาวิทยาลัยแซมฮิวสตันสเตท ประเทศสหรัฐก่อนกลับมารับราชการตำรวจ และได้ติดยศ "พ.ต.ท." ในที่สุด

กระทั่งปี 2523 พ.ต.ท.ทักษิณหันไปทำธุรกิจควบคู่การรับราชการ เคยหยิบจับธุรกิจหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าไหม ผู้อำนวยการการสร้างภาพยนตร์ นักค้าคอนโดมิเนียม ฯลฯ ซึ่ง "สมชาย" เผยว่า "พี่เขย" เคยปรารภกับคนในครอบครัวหลายครั้งว่าอยากลาออกจากราชการ เพราะถ้าธุรกิจมีปัญหาขาดทุน อาจพาลเดือดร้อน "คนในบ้าน"

"ผมเป็นคนหนึ่งที่คัดค้านไม่ให้ท่านลาออกคล้ายๆ ว่าเราเป็นข้าราชการ ก็คิดว่าเออ! รับราชการก็ดีอยู่แล้ว ท่านจบดอกเตอร์ทางอาชญาวิทยา และได้เป็น พ.ต.ท.ตั้งแต่ยังหนุ่มๆ อย่างไรก็ตามเป็นนายพล ผมคิดแค่นั้นน่ะ แต่ท่านคิดไม่เหมือนผม ท่านบอกว่าถ้าเป็นนายพลแล้วอยู่จนๆ ไปวันๆ ก็ไม่รู้จะเป็นไปทำไมการทำธุรกิจน่าจะเป็นโอกาสที่ดี"

อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าเส้นทางธุรกิจของ "อดีตนายพันตำรวจ" ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เขาต้องวิ่งแลกเช็ค วิ่งขึ้นศาล และทำอีกหลายอย่างเพื่อความอยู่รอดของเงินในกระเป๋า

"สุดท้ายด้วยความมานะพยายาม ความสามารถและความฉลาดของท่าน ก็ทำให้ท่านประสบผลสำเร็จ มีเงินมีทอง จนใครๆ ก็รู้ว่าทักษิณรวย นี่คือข้อเท็จจริงว่าทักษิณ รวยก่อนที่จะมาทำงานการเมือง" นายสมชายกล่าว

ต่อมาในปี 2537 พ.ต.ท.ทักษิณได้ตัดสินใจเบนเข็มชีวิตอีกครั้ง คราวนี้เป็นการกระโจนเข้าสู่ถนนสายการเมือง และได้รั้งเก้าอี้ รวม.ต่างประเทศในรัฐบาล ชวน หลีกภัย ในอีก 1 ปีให้หลัง

แม้ขณะนั้นกฎหมายจะไม่บังคับให้แสดงบัญชีทรัพย์สิน แต่ "คนการเมืองหน้าใหม่" ตัดสินใจลอกคราบตัวเองเพื่อสร้างภาพลักษณ์สุดโปร่งใส

"แม้ไม่มีกฎหมายให้ดีแคลร์(แสดง)ทรัพย์สิน แต่ท่านต้องการบอกว่าก่อนเข้าการเมืองมีเงินเท่านี้นะ ตอนนั้นท่านดีแคลร์ไป 4.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นเมื่อเกิดปัญหาจนต้องออกจากพรรคพลังธรรม ท่านมีความคิดว่าน่าจะช่วยบ้านเมืองได้ เพราะสตางค์ก็มีแล้วไม่เดือดร้อน ก็เลยคิดตั้งพรรคไทยรักไทยเพื่อเข้าสู่การเมืองอย่างเต็มตัว"

ทว่าพลันที่ "พ.ต.ท.ทักษิณ" รุดไปแจ้งแนวคิดลงทุนทำ "พรรคการเมืองใหม่" ให้ เลิศ ชินวัตร บิดา รับทราบ ก็ถูกต่อต้านทันควัน

พ่อท่านทักษิณไม่สนับสนุนให้ไปทำอย่างนั้น โดยบอกว่า "..เฮ้ย!! ษิณแกก็รวยแล้ว ตังค์ก็มีครอบครัวก็อบอุ่นดี ไปทำอะไรก็ได้ แกเล่นการเมืองไม่ทันเขาหรอก เดี๋ยวโดนเขาหลอกเพราะแกเป็นคนซื่อ.." นี่คือคำพูดของพ่อ

แต่ท่านทักษิณตอบกลับไปว่า "ไอ้ที่ผมรวย ที่ผมพยายามทำมาหากินมาทั้งชีวิตก็เพื่อให้มีเงินมีทองไว้ให้ครอบครัวและตัวเองได้ใช้ ก่อนจะอุทิศตัวเพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อการเมืองโดยที่ครอบครัวไม่ต้องเดือดร้อนกับการเข้าไปทำงานการเมืองของผม ไม่ต้องถูกครหานินทาว่าไปโกง"

นั่นคือน้ำคำ "อดีตเจ้าของบริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น" ที่ประสงค์จะผันตัวไปเป็น "เจ้าของพรรคไทยรักไทย" แบบเต็มรูป

สมชายบอกว่า "บทสนทนาประวัติศาสตร์" นี้เกิดขึ้นที่ปลายเตียงของ "พ่อเลิศ" ในขณะเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพในปี 2541 โดยมีลูก-หลานตระกูล "ชินวัตร" รวมถึง "น้องเขยต่างสายเลือด" ร่วมเป็นสักขีพยาน

"พอพ่อท่านไม่อนุญาต ก็คงทำไม่ได้เพราะขัดต่อความรู้สึกของผู้ใหญ่ท่านทักษิณนี้ซึมเลย พวกผมต่างหากที่ไปช่วยพูดกับพ่อว่าเห็นใจพี่เขาเถอะ เขาตั้งใจจริงๆ ว่าจะทำงานการเมือง พยายามหาเงินหาทอง เพราะไม่ต้องการมาแบบมือเปล่าแล้วกลับไปมีตังค์ท่านต้องการหาเงินหาทองให้ได้ก่อน ให้รวยก่อนถึงลงเล่นการเมือง"

"พวกเราช่วยกันบอกพ่อว่าปล่อยเขาไปเถอะ เขาตั้งใจทำมาหากิน ได้มาขนาดนี้ คงไม่มีใครหลอก ตอนนั้นรวยหลายหมื่นล้านบาทนะ เป็นคนไทยนะ ในเมื่อรวยถึงขนาดนี้ก็ปล่อยเขาเหอะ ในที่สุดพ่อก็ใจอ่อนยอมให้ทำพรรค แต่ก็ยังมิวายบอกว่าพ่อไม่เห็นด้วยนะ" เขยตระกูลชินวัตรกล่าว

เป็นความหวังที่ไม่มีใครรู้ว่าการ "โอนหุ้น" ซึ่งถูกบังคับโดยกฎหมายเพื่อกระโจนเข้าสู่ปลักโคลนการเมืองของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" ในวันนั้น จะทำให้ "หัวหน้าครอบครัว" ต้องพเนจรอยู่ในต่างแดน ณ วันนี้!!!.

ที่มา: น.ส.พ.มติชน ฉบับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553

* * * * *

@ คลิกที่นี่.. ย้อนรอยคดีประวัติศาสตร์ ยึดทรัพย์'แม้ว' 4 หมื่นล้าน

* * * * *

@ ย้อนอดีต..ทั้งอ่านทั้งฟัง!! คลิกที่นี่.. "..พลิกคำวินิจฉัย"หนึ่งเดียว"ในองค์คณะคดียึดทรัพย์" ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล รองประธานศาลฎีกา ตอบโจทย์ ทำไม"ทักษิณ"มิได้ร่ำรวยผิดปกติ.."

* * * * *

ทักษิณเปิดใจหลังพิพากษายึดทรัพย์

* * * * *